กรมประมงวางโรดแมปยกระดับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทยสู่ความยั่งยืน

    กรมประมง..จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การบูรณาการองค์ความรู้และการประยุกต์ใช้แนวทางธรรมชาติ (Nature-based Solution : NbS) ในการเปลี่ยนผ่านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทยสู่ความยั่งยืน” ในระหว่างวันที่ 16–17 กันยายน 2568 ณ โรงแรมชาร์ลอง บูทรีค อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีผู้ร่วมการประชุม ประกอบด้วย เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยง หน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ และองค์กรระหว่างประเทศ รวมกว่า 70  คน

          นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมดังกล่าวว่า ที่ผ่านมาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทยมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างรายได้ของเกษตรกร การเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของประเทศ และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก แต่ในขณะเดียวกันระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำก็ยังคงเผชิญปัญหาหลายด้าน อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และสิ่งแวดล้อม ความไม่สมดุลของระบบนิเวศ สภาวะเศรษฐกิจโลก มาตรการแข่งขันทางการค้า รวมถึงต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรประสบความเสี่ยงและไม่สามารถรักษาความมั่นคงทางอาชีพได้ในระยะยาว ดังนั้น นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง จึงได้มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดได้ศึกษาการใช้แนวทางธรรมชาติ หรือ NbS เพื่อนำมาบูรณาการและประยุกต์ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้เกิดความยั่งยืน
          สำหรับการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การบูรณาการองค์ความรู้และการประยุกต์ใช้แนวทางธรรมชาติ (Nature-based Solution : NbS) ในการเปลี่ยนผ่านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทยสู่ความยั่งยืนในครั้งนี้
กรมประมง โดยกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด และกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ได้ดำเนินการภายใต้โครงการ Knowledge brokering for nature-based solution (NbS) in aquaculture transformation in Asia – Pacific : Support to the Aquaculture Innovation and Investment Hub (AIIH) ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การข่ายงานศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแห่งเอเชียและแปซิฟิก (NACA) เพื่อขับเคลื่อนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและการจัดการสิ่งแวดล้อม รวมถึงการดำเนินโครงการ NbS เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในถ้อยแถลงที่กรมประมงได้นำเสนอกิจกรรมสำคัญที่จำเป็นต่อการยกระดับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทย ในการประชุมระดับสูงว่าด้วยการพลิกโฉมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ครั้งที่ 3 (The 3rd High level Meeting on Aquaculture Transformation: HLM 3) ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 1–2 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา
          ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวนับเป็นโอกาสสำคัญของประเทศไทยในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสร้างผลผลิตด้านการประมงที่มาจากการเพาะเลี้ยงให้เกิดความสมดุลระหว่างการผลิตและการอนุรักษ์ทรัพยากร ด้วยการนำแนวทางธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติในการจัดการทรัพยากรอย่างสมดุล โดยมุ่งใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแข่งขัน และสร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกรในระยะยาว สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทย พร้อมขานรับกับนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีกิจกรรมสำคัญ อาทิ การบรรยายพิเศษ เรื่อง สถานการณ์และทิศทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทย การใช้แมลงโปรตีน BSF เพื่อลดต้นทุนอาหารสัตว์น้ำ และแนวทางการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อดำเนินธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน โอกาสนี้ยังได้มีการเปิดเวทีให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปลงใหญ่กุ้งก้ามกรามบ้านโปร่งแค อำเภอยางตลาด วิสาหกิจชุมชนผู้เลี้ยงกบ อำเภอกมลาไสย วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ปลาดุกบิ๊กอุยบ้านโปโล สหกรณ์ผู้เลี้ยงปลานิลในกระชังเขื่อนลำปาว วิสาหกิจชุมชนกุ้งก้ามกรามหาดปลาทอง และเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในนาข้าว จังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่กรมประมง และองค์การข่ายงานศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแห่งเอเชียและแปซิฟิก (NACA) รวมจำนวนกว่า 70 คน  ร่วมระดมสมองและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากประสบการณ์จริง เพื่อนำมากำหนดแนวทางที่เหมาะสมต่อการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของประเทศไทยในอนาคตต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาดูงาน ณ ฟาร์มกุ้งก้ามกรามในพื้นที่อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ และฟาร์มกบในพื้นที่อำเภอโพธิ์ชัย จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นฟาร์มต้นแบบที่ได้นำแนวทาง NbS มาประยุกต์ใช้จริง โดยผู้เข้าร่วมประชุมจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ของตนเองได้อย่างเหมาะสม
          รองอธิบดีกรมประมง กล่าวในตอนท้ายว่า เชื่อมั่นว่าการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้ จะเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ ทั้งจากภาครัฐ ภาควิชาการ และโดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรผู้ปฏิบัติจริง เพื่อนำไปสู่การกำหนดแนวทางการพัฒนารวมถึงการจัดทำแผนพัฒนานวัตกรรมและการลงทุนแห่งชาติ (NIIP) ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ที่สามารถขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของไทยให้ก้าวหน้าและยั่งยืนต่อไป