“รมว.ธรรมนัส“ เดินหน้าพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำพัทลุง พร้อมเร่งบูรณาการแก้ปัญหาราคาพืชผลให้เกษตรกร
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการเพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดพัทลุง และรับฟังปัญหาและข้อเสนอจากผู้นำท้องถิ่นและเกษตรกรใน 11 อำเภอ โดยมี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญกับการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรในจังหวัดพัทลุง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิต รายได้ และความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกร โดยจังหวัดพัทลุงมีปริมาณน้ำฝนสูงกว่า 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปัจจุบันมีพื้นที่กักเก็บน้ำได้เพียงประมาณ 140 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับศักยภาพของพื้นที่ จึงต้องเร่งเพิ่มแหล่งน้ำเพื่อบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร และป้องกันปัญหาน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพ
“น้ำคือเรื่องใหญ่ที่สุดของพัทลุง แต่ปัจจุบันยังขาดแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จึงต้องเร่งเพิ่มแหล่งน้ำในพื้นที่ ซึ่งการจัดการน้ำในพัทลุงต้องทำเป็นระบบ ตั้งแต่ลำน้ำหลัก ลำน้ำสาขา ต้องเร่งขุดปรับปรุง และเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำโดยไม่รอช้า จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการในเรื่องเร่งด่วน เช่น การแก้ปัญหาประตูระบายน้ำ การซ่อมแซมสะพาน การขยายคลองเพิ่มความจุ รวมถึงการบรรจุโครงการจำเป็นเข้าแผนเพื่อเสนอของบประมาณ แก้ปัญหาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
สำหรับโครงการสำคัญที่ต้องเร่งผลักดัน ได้แก่ 1. โครงการประตูระบายน้ำคลองลำเบ็ด กม. 4+100 ต.ควนมะพร้าว อ.เมืองพัทลุง เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและเพิ่มพื้นที่กักเก็บน้ำในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งขณะนี้ได้รับงบประมาณและเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว 2. โครงการปรับปรุงระบบระบายน้ำคลอง 3R–LMC ควนกุฎิ ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน ปัจจุบันรองรับน้ำได้เพียง 1.1 ล้านลูกบาศก์เมตร หากขยายเต็มระบบจะเพิ่มความสามารถได้ถึง 33 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยลดความเสี่ยงน้ำท่วมและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำครอบคลุมทั้งจังหวัด 3. โครงการก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กคลอง RMC2 กม.7+980 (นาท่อม) ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง
โดยแผนดังกล่าวได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งผลักดันบรรจุแผนเพื่อเสนอของบ และยืนยันว่าจะเดินหน้าให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
รมว.เกษตรฯ กล่าวถึงปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรว่า เกษตรกรพัทลุงปลูกปาล์ม ยางพารา พืชไร่ พืชสวน และประกอบอาชีพประมงจำนวนมาก จึงเตรียมตั้งคณะทำงาน โดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ขับเคลื่อนร่วมกับผู้นำพื้นที่ เพื่อดูแลราคาพืชผลอย่างเป็นธรรมและยกระดับรายได้เกษตรกรอย่างยั่งยืน
“ผมขอยืนยันว่า จะเดินหน้าอย่างเต็มกำลังบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องทั้งระยะเร่งด่วน รวมถึงพัฒนาแผนแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาวให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และความต้องการของพี่น้องเกษตรกร รวมทั้งการส่งเสริมอาชีพ การยกระดับการผลิต และการเสริมความมั่นคงให้สถาบันเกษตรกรต่อไป” รมว.ธรรมนัส กล่าว
ทั้งนี้ จากรายงานของกรมชลประทาน จังหวัดพัทลุงมีพื้นที่เกษตร 1.55 ล้านไร่ มีพื้นที่ชลประทานและพื้นที่รับประโยชน์ 858,613 ไร่ คิดเป็น 55.20% ของพื้นที่เกษตร โดยมีโครงการชลประทานแล้วเสร็จรวม 149 แห่ง ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำได้ 142 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 2.73% ของน้ำท่าในพื้นที่ ส่งผลให้พี่น้องเกษตรกรจำนวนมากยังประสบปัญหาน้ำเพื่อการเกษตรไม่เพียงพอ กรมชลประทานจึงวางแผนพัฒนาระบบน้ำทั้งระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะปานกลาง ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้น 198,973 ไร่ ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วจะทำให้พื้นที่รับประโยชน์รวมเพิ่มเป็น 68% ของพื้นที่เกษตร
