PSU32 มอบยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์แก่รพ.สต.บ้านโคกทึง

ศิษย์เก่าม..ปัตตานี  PSU32 นัดรวมพลครั้งใหญ่ในรอบ 32 ปี พร้อมทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมตามพระปณิธานพระราชบิดา ด้วยการมอบยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์แก่รพ.สต.บ้านโคกทึง เพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยต่อไป

นางซูนา วงพระหัต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกทึง ต.ท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราชกล่าวระหว่างร่วมเสวนาในรายการ”เกษตรวาไรตี้”ทางสถานีวิทยุม.ก.ว่าการรับมอบยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ครั้งนี้รู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติจากคณะศิษย์เก่าม.อ.ปัตตานีที่มอบยาและเวชภณฑ์ทางการแพทย์ให้กับรพ.สต.บ้านโคกทึงเพื่อนำไปให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ ปัจจุบันรพ.สต.บ้านโคกทึง มีบุคลากรให้บริการผู้ป่วยจำนวน 6 คน ประกอบด้วยพยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุขและลูกจ้างปฎิบัติการตามภารกิจ   ภารกิจหลักเน้นบริการด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน   การฟื้นฟูดูแลสุขภาพของประชาชนชนในพื้นที่ เน้นการป้องกันโรคและการพยาบาลขั้นพื้นฐานบริการแบบปฐมภูมิ   ซึ่งหากมีผู้ป่วยอาการหนักก็จะส่งต่อให้กับสถานพยาบาลแม่ข่ายคือโรงพยาบาลมหาราช เพื่อทำการรักษาต่อเนื่องต่อไป

“วันนี้เราได้รับยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์หลายชนิดที่ทีมงานเครือข่ายศิษย์เก่าม.อ.รหัส32 หรือ PSU32 นำมามอบให้ ส่วนใหญ่ก็เป็นยาสามัญประจำบ้านและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งจะนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป และขณะนี้กำลังเข้าสู่ฤดูกาลน้ำท่วมขัง ยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เหล่านี้ ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนช่วยชาวบ้านได้เป็นอย่างดี”ผอ.รพ.สต.บ้านโคกตึงกล่าว

อย่างไรก็ตามยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่นำมามอบในวันนี้ ได้รับอนุเคราะห์จากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ หน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ยาสามัญประจำบ้าน หนังยางบริหารร่างกายช่วยภาวะแขนติด ลูกยางบีบในผู้ป่วยที่มีภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง  หมวกสำหรับผู้ป่วยผ่านการให้คีโมรักษามะเร็ง ตลอดเสื้อผ้าสำเร็จรูปสำหรับผู้ป่วย เป็นต้น

ขณะที่ นายสมพงษ์ เจริญสุข อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าม.สงขลานครินทร์(ม.อ.) ฐานะตัวแทนในการมอบยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ครั้งนี้กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีที่ได้รับเกียรติจากคณะศิษย์เก่าม.อ.รหัส 32 หรือPSU32 ให้เป็นตัวแทนมอบยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ในครั้งนี้ ซึ่งทุกครั้งที่มีการจัดงานพบปะศิษย์เก่าของสถาบันก็จะมีกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมแบบนี้ทุกครั้งเช่นกัน เป็นไปตามพระปณิธานพระราชบิดาที่เคารพสัการะของพวกเราชาวม.อ.ปัตตานีและครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราทำประโยชน์เพื่อสังคมตามพระปณิธานพระราชบิดา

“พวกเราเป็นสังคมเล็ก ๆ ที่อยู่กันแบบพี่แบบน้อง รู้จักกันหมดเห็นหน้าเห็นตากันตลอดเวลา นอกจากเรียนแล้วเราก็มีการทำกิจกรรมร่วมหลาย ๆ อย่าง ทำให้มีความผูกพันกันอย่างต่อเนื่องแม้จะจบการศึกษาออกมาแล้วก็ตาม” อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าม.สงขลานครินทร์(ม.อ.)กล่าว

อย่างไรก็ตามพระปณิธานพระราชบิดา ไม่ใช่มีแค่เชิงความคิดเชิงสัญลักษณ์อย่างเดียว แต่ในระหว่างอยู่ด้วยกันในรั้วม.อ.ปัตตานี เราก็มีกิจกรรมเชิงปฏิบัติต่าง ๆ มากมายเปิดโอกาสให้ทั้งพี่ทั้งน้องไปแสดงออกไปปฏิบัติสู่ชาวบ้านตลอดเวลา อย่างเช่นสมาชิกรมชมอาสาพัฒนาฯหลายคนเคยไปออกค่ายในพื้นที่กันดารห่างไกลช่วงที่ปิดเทอม เมื่อจบออกมา ก็ยังแนวปฏิบตินี้ไปใช้ในการทำงานเพื่อเกิดประโยชน์ต่อสังคมในมิติต่าง ๆ อย่างหลากหลาย  

อดีตนายกสมาคมศิษย์เก่าม.สงขลานครินทร์ย้ำด้วยว่าตนเองเพิ่งมาร่วมกิจกรรมศิษย์เก่าม.อ.ปัตตานีรหัส32 เป็นครั้งแรก การจัดงานครั้งนี้ทำได้ดีมาก   ที่สำคัญวันนี้  24 ตุลาคมของทุกปีตรงกันวันสหประชาชาติด้วย ตนในฐานะที่เคยทำงานในองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น(UN )มาก่อน   ทราบดีว่าสหประชาชาติเป็นองค์กรที่ทำประโยชน์เพื่อเพื่อนมนุษย์เช่นเดียวกัน ถือว่าวันนี้เป็นวันดีที่พวกเราได้มาทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกันเพื่อให้เกิดสิ่งดี ๆ ร่วมกันขอให้พวกเราได้รับอานิสงค์จากการแบ่งปันสังคมด้วยครับ”นายสมพงษ์ กล่าวย้ำ

ด้าน นางอุไรวรรณ จุลสิกขี อาจารย์โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย นครศรีฯ หนึ่งในทีมคณะทำงานจัดงาน” PSU32 Reuninon 32 ปีที่คิดถึง” ฐานะศิษย์เก่าม.อ.ปัตตานี PSU 32 กล่าวเสริมว่า ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเราชาวม.อ.ปัตตานี รหัส32 ได้จัดงานพบปะสังสรรค์หลังจบการศึกษามาร่วม 32 ปี ภายใต้ธีม”PSU32 Reunion 32 ปีที่คิดถึง” ระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคม 2568 ณ ซีวา บีช  ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เพื่อน ๆ รหัส32 ได้พบปะเจอกันรำลึกความสัมพันธ์เมื่อครั้งอยู่ด้วยกันในรั้วสีบลูรูสะมิแลตั้งแต่ปี 2532-36 หลังจากการศึกษามาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา32 ปีแล้วต่างคนต่างมีภารกิจหน้าที่การงานทำให้เราไม่มีโอกาสได้เจอกัน  

“ในปีนี้ 2568 เป็นเวลา 32 ปีแล้วที่เราจากกัน ไม่ได้เจอกันวันนี้เป็นโอกาสดีที่เราได้มาเจอกัน  ได้พูดคุยย้อนรำลึกความหลังสมัยอยู่ม.อ.ตานี แล้วก็ทำกิจกรรมดี ๆ เพื่อสังคมร่วมกัน ด้วยการมอบยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับรพ.สต.บ้านโคกทึง”นางอุไรวรรณ จุลสิกขี ย้ำทิ้งท้าย