“รมช.นเรศ” ลุย “ลำพูน” ติดตามอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาฯ ยกระดับแหล่งน้ำ พร้อมผลักดันโครงการพัฒนาลำไยคุณภาพ 1,400 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ต่อครัวเรือน ส่งเสริมเกษตรกรผลิตลำไยพรีเมียม
นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงาน โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.แม่ลาน อ.ลี้ จ.ลำพูน โดยมี คณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมติดตามลงพื้นที่ ว่า อำเภอลี้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดลำพูน ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 105 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 1,702 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 38 ของพื้นที่ทั้งจังหวัดลำพูน มีประชากรรวมประมาณ 65,000 คน ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ลำไย ข้าว พืชไร่ กาแฟ มะม่วงน้ำดอกไม้ สมุนไพรและพืชผักพื้นบ้าน ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ ภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีแหล่งน้ำสำคัญหลายแห่ง โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำห้วยจะกา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหลัก ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคของประชาชนในหลายหมู่บ้าน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน กำลังดำเนินโครงการเพื่อเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำและระบบกระจายน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรในพื้นที่ ลดปัญหาขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง ซึ่งโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยจะกา จะเป็นแนวทางสำคัญในการช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างยั่งยืน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายตนให้มาลงพื้นที่ตำบลแม่ลาน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เพื่อเร่งสร้างแหล่งน้ำ และกระจายน้ำให้เกษตรกรสามารถทำการเกษตรเลี้ยงชีพได้ รวมถึงผลักดันราคายางพาราให้ถึง 70 บาทต่อกิโลกรัม อีกทั้งโครงการพัฒนาสวนลำไยคุณภาพตัดแต่งทรงพุ่ม/ช่อผล ฟื้นฟูสวนลำไย เพื่อเพิ่มรายได้ ไร่ละ1400 ไม่เกิน 10 ไร่/ครัวเรือน จะยังผลักดันต่อไป เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนลำไยมีการพัฒนาการผลิตลำไยเกรดพรีเมียมออกสู่ตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยจะกาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นผลมาจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรที่ประสบความแห้งแล้งที่บ้านกองวะ หมู่ 7 ต.โป่งทุ่ง อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ได้ทรงพระราชดำริให้กรมชลประทาน พิจารณาเรื่องที่ราษฎรกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ ในการก่อสร้างแหล่งเก็บกักน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรและการอุปโภคบริโภค สำหรับราษฎรบ้านกองวะและหมู่บ้านใกล้เคียง เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนน้ำพื้นที่การเกษตร โดยโครงการสามารถกักเก็บน้ำได้ถึง 1.932 ล้าน ลบ.ม. เป็นเขื่อนทำนบดินยาว 590 เมตร ความสูง 17.5 เมตร ความกว้าง 8 เมตร ท่อส่งน้ำขนาด 1.20 เมตร และมีอาคารระบายน้ำล้นได้สูงสุด 67.30 ลบ.ม./วินาที ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเฉลี่ยรายปี 2 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 1,000 ไร่ ประชากรได้รับประโยชน์ 879 ครัวเรือน
โอกาสนี้ รมช.นเรศ ได้มอบปัจจัยผลิตทางการเกษตรให้กับเกษตรกร ได้แก่ โฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร โฉนดต้นไม้ โฉนดต้นยางพารา พืชผักพันธุ์ดี และพันธุ์ปลา เพื่อให้เกษตรกรนำไปเลี้ยงชีพสร้างรายได้ต่อไป