กรมประมง แจงดราม่าสนั่นโซเชียล !
จากกรณีการสื่อสารบนโลกออนไลน์เกี่ยวกับ (ร่าง) ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดชนิดเครื่องมือ จำนวน และประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในการจับสัตว์น้ำ ตลอดจนเงื่อนไขสำหรับเรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำ พ.ศ. 2568 ในประเด็นข้อกำหนดให้เรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำ ใช้ “เบ็ดมือ” จำนวนไม่เกิน 3 คันต่อคน และมีการตั้งข้อโต้แย้งในประเด็นดังกล่าว
นายสุวัฐน์ วงศ์สุวัฒน์ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า กรมประมงได้รับข้อเรียกร้องจากกลุ่มผู้ประกอบการเรือตกปลา จ.สงขลา ขอให้เปิดการจดทะเบียนเรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำขึ้น
เพื่อที่กลุ่มผู้ประกอบการจะสามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง โดยการดำเนินการจดทะเบียนเรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกรมประมงและกรมเจ้าท่า ซึ่งกรมประมงจะต้องออกประกาศกำหนดชนิดเครื่องมือ จำนวน และประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในการจับสัตว์น้ำ ตลอดจนเงื่อนไขสำหรับเรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำ จากนั้นกรมเจ้าท่าจึงจะเปิดให้มีการจดทะเบียนในขั้นตอนต่อไป รวมถึงคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวได้มีการพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีเรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมให้ความเห็นว่า ควรมีการส่งเสริมให้มีการจดทะเบียนเรือประเภทดังกล่าวเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และมีแนวทางการกำกับดูแลตามกฎหมายที่ชัดเจน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการพิจารณาร่วมกัน กรมประมงจึงได้จัดทำ (ร่าง) ประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดชนิดเครื่องมือ จำนวน และประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในการจับสัตว์น้ำ ตลอดจนเงื่อนไขสำหรับเรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำขึ้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ประกาศฉบับนี้บังคับใช้เฉพาะกลุ่ม “เรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำ” เท่านั้น (มิได้บังคับใช้กับเรือประเภทการใช้ทำการประมง หรือการทำกิจกรรมตกปลาที่ไม่ใช้เรือ)
2. ประกาศอาศัยอำนาจตามข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยการกำหนดประเภทการใช้เรือทั่วไปที่มิใช่เรือประมง เรือขนถ่ายสัตว์น้ำ หรือเรือสนับสนุนการประมง พ.ศ. 2561 ข้อ 5 กรณีเรือที่เป็นประเภทเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ซึ่งใช้เพื่อสันทนาการ การท่องเที่ยว และจับสัตว์น้ำด้วยเครื่องมือประมงขนาดเล็ก เช่น ใช้เบ็ดตกปลา ฯลฯ ให้กำหนดประเภทการใช้เรือเป็น “ท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำ” สำหรับเครื่องมือ จำนวน และประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้ในการจับสัตว์น้ำ ตลอดจนเงื่อนไขต่าง ๆ รวมถึงข้อควรปฏิบัติ ให้เป็นไปตามที่กรมประมงประกาศกำหนด
3. กำหนดเครื่องมือจับสัตว์น้ำในกิจการเรือท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำ ดังนี้
(1) เบ็ดมือ จำนวนไม่เกิน 3 คัน ต่อ คน
(2) ดวงไฟที่มีขนาดไม่เกิน 500 วัตต์ และมีกำลังกระแสไฟฟ้ารวมไม่เกิน 3,000 วัตต์ไม่จำกัดจำนวน ทั้งนี้ ห้ามใช้ดวงไฟใต้น้ำเพื่อล่อสัตว์น้ำ
(3) แหที่มีขนาดตาอวนไม่น้อยกว่า 3.2 ซม. จำนวนไม่เกิน 2 ปาก ต่อ ลำ
(4) สวิง จำนวนไม่เกินจำนวนคันเบ็ดรวมตามข้อ 1 โดยให้ใช้ประกอบกับเครื่องมือเบ็ดมือเท่านั้น
4. กำหนดระยะเวลาในการอนุญาตให้มีการจดทะเบียนเรือหรือเปลี่ยนประเภทการใช้เรือเป็นประเภทการใช้ ท่องเที่ยวจับสัตว์น้ำ มีระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่ประกาศกรมประมงมีผลบังคับใช้
ทั้งนี้ กรมประมงได้จัดทำร่างประกาศดังกล่าวโดยพิจารณาข้อมูลวิชาการ ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และนำ
ร่างประกาศฯ ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงนำร่างประกาศขึ้นรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบกลางทางกฎหมาย (LAW.go.th) ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม ถึง 8 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการสรุปความคิดเห็นและประเด็นเพื่อพิจารณาร่างประกาศดังกล่าวอีกครั้ง และท้ายที่สุดแล้วการที่กรมประมงจะออกประกาศในเรื่องนี้ เพื่อให้มีการบังคับใช้ที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องมีความสอดคล้องกับบริบทข้อเท็จจริงของวิถีชีวิต และไม่ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพในภาพรวมอย่างแน่นอนโฆษกกรมประมง กล่าว