“ฉก.พญานาคราช” ตรวจเข้มการลักลอบนำเข้าพืชเถื่อนในจังหวัดมุกดาหาร

พันเอก รวิรักษ์ สัตตบุศย์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช (ฉก.พญานาคราช) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 เวลา 23.00 น. ฉก.พญานาคราช
นำโดยนายมงคล ไพรเขียว หัวหน้าด่านตรวจพืชมุกดาหาร, ด่านกักกันสัตว์มุกดาหาร, ด่านตรวจประมงมุกดาหาร, ด่านศุลกากรมุกดาหาร พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราบปราม และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ร่วมบูรณาการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร โดยได้ร่วมกันตรวจสอบรถกระบะต้องสงสัยกำลังมุ่งหน้าผ่านสามแยกโนนตูม หมู่ 3 ตำบลผึ่งแดด อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบสินค้าที่บรรทุกมา พบว่ามีผลอะโวคาโดอยู่ในตะกร้าสีดำบรรทุกอยู่บนหลังรถยนต์กระบะจำนวน 90 ตะกร้า น้ำหนักรวมประมาณ 2,250 กิโลกรัม โดยไม่มีเอกสารผ่านพิธีการศุลกากร และไม่มีเอกสารผ่านด่านตรวจพืชมาแสดงแก่เจ้าหน้าที่ ต่อมาเมื่อเวลา 23.50 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบรถกระบะต้องสงสัยอีกคัน บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในอำเภอผึ่งแดด ตำบลผึ่งแดด อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ภายหลังการตรวจสอบพบผลอะโวคาโดสดบรรจุในตะกร้าพลาสติกสีดำ จำนวน 80 ตะกร้า น้ำหนักรวมประมาณ 2,100 กิโลกรัม โดยไม่มีเอกสารผ่านพิธีการศุลกากร และไม่มีเอกสารผ่านด่านตรวจพืชเช่นกัน ทั้งนี้ สิ่งต้องห้ามดังกล่าวจะนำเข้าได้ต้องผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชก่อนและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 มาตรา 10 ประกอบมาตรา 8 และร่วมกันลักลอบนำหรือส่งสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรารา 242 และเป็นของอันพึงต้องริบตามมาตรา 166 และ 167 ตามพระระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 พร้อมทำบันทึกการตรวจยึดส่งด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 เวลา 19.00 น. ได้รับแจ้งจาก น.ท.โอรส พุทธโค หน.สน.เรือมุกดาหารซึ่งทำการลาดตระเวนในบริเวณพื้นที่บ้านทรายทอง ตำบลบางทรายน้อย อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร ว่าตรวจพบเรือเหล็กพร้อมเครื่องยนต์ติดท้ายต้องสงสัยแล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามายังราชอาณาจักรไทย และตรวจพบกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน รออยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงที่เรือลำดังกล่าวเข้าเทียบ เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตนขอเข้าตรวจสอบ กลุ่มคนดังกล่าวได้ทิ้งของกลางและหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมาในเรือพบว่าเป็นมะม่วงแก้วขมิ้นบรรจุอยู่ภายในลังพลาสติกสีดำจำนวน 19 ลังๆ ละ 19 กิโลกรัม และมะม่วงแก้วขมิ้นบรรจุในลังพลาสติกสีดำ จำนวน 1 ลัง น้ำหนัก 5 กิโลกรัม น้ำหนักรวมทั้งสิ้นประมาณ 366 กิโลกรัม โดยแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้กระทำความผิดที่หลบหนีว่าร่วมกันนำเข้าซึ่งสิ่งต้องห้าม (มะม่วงแก้วขมิ้น) นั้น จะต้องนำเข้าทางด่านตรวจพืชเพื่อให้เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจ และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ.2507 มาตรา 10 ประกอบมาตรา  8 และ ร่วมกันลักลอบนำหรือส่งสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรารา 242 และ เป็นของอันพึงต้องริบตามมาตรา 166 และ 167 ตามพระระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 พร้อมกับทำบันทึกการตรวจยึดส่งด่านศุลกากรมุกดาหาร
เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป