สอวช. จัดพิธีปิดหลักสูตรนโยบายเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการคาร์บอนสำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 1 ปั้นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย

สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) จัดพิธีปิดหลักสูตรนโยบายเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการคาร์บอนสำหรับผู้บริหาร รุ่นที่ 1 (Carbon Management Technology and Innovation Policy for Executives #1) เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุม Lumphini 3 ชั้น 10 โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี กรุงเทพฯ โดยนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มอบหมายให้ ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. เป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีและมอบวุฒิบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม

ดร.สุรชัย ได้กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดีกับความสำเร็จของผู้เข้าร่วมอบรมในหลักสูตร อีกทั้งยังได้ชี้ให้เห็นว่าประเด็นเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมการจัดการคาร์บอนเป็นเรื่องที่กระทรวง อว. ให้ความสำคัญและผลักดันมากขึ้น โดยผลที่ได้จากการอบรมครั้งนี้หวังให้เกิดการทำงานและการขับเคลื่อนร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เข้าร่วม สร้างให้เกิดการนำนโยบายไปปฏิบัติจริง

“สอวช. จัดหลักสูตรนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเริ่มต้นจากการคิดว่าโลกของเรา และประเทศของเรากำลังให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร โดยพบว่าการไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เนื่องจากประเทศไทยยังมีความท้าทายในการขับเคลื่อนเรื่องนี้อยู่มาก เชื่อว่าการเข้าร่วมหลักสูตรนี้นอกจากจะช่วยให้ทุกคนได้องค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการคาร์บอนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมแล้ว ยังเป็นพื้นที่ให้ได้แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และประสบการณ์อันที่จะก่อให้เกิดเป็นเครือข่ายผู้นำที่เข้มแข็งทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน สร้างให้เกิดผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นพลังสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทยต่อไป” ดร.สุรชัย กล่าว

สำหรับหลักสูตรในรุ่นที่ 1 มีการแบ่งกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรมออกเป็น 4 กลุ่ม เพื่อจัดทำและนำเสนอผลงานโครงการและแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายตามโจทย์ที่ได้รับ โดยแบ่งเป็น กลุ่มภูเวียง: นำเสนอผลงานในหัวข้อ “เกาะเสม็ด: ต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำที่ยั่งยืน” จากโจทย์เกี่ยวกับเมืองยั่งยืน (Sustainable Cities) กลุ่มพรหมเทพ: นำเสนอผลงานในหัวข้อ “แพลตฟอร์มนโยบาย Agriclimate บูรณาการยุทธศาสตร์และนวัตกรรมเพื่อการเกษตรคาร์บอนต่ำ” จากโจทย์เกี่ยวกับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Adaptation) กลุ่มแก่งกระจาน: นำเสนอผลงานในหัวข้อ “การส่งเสริมการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching)” จากโจทย์เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของชุมชน (Community Engagement) และกลุ่มหว้ากอ: นำเสนอผลงานในหัวข้อ “ข้าวไทยเปลี่ยนโลก หอมมะลิไทย ไม่ทิ้งใครไว้ข้างนา” จากโจทย์เกี่ยวกับความหลากหลายและการมีส่วนร่วม (Diversity and Inclusion)

โดยมีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ดร.สุรชัย สถิตคุณารัตน์ ผู้อำนวยการ สอวช. ดร.จงรักษ์ ฐินะกุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านส่งเสริมและเผยแพร่ กองขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม รศ. ดร.บัณฑิต ฟุ้งธรรมสาร ที่ปรึกษาอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี รศ.วงกต วงศ์อภัย รองผู้อำนวยการ สอวช. และ ดร.วิมลมาศ ศรีจำเริญ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เกียรติมาเป็นผู้ตัดสินรางวัลให้กับผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งกลุ่มที่ได้รับรางวัล Grand Prize คือกลุ่มภูเวียงที่ได้นำเสนอ 4 นโยบายสำคัญในการสร้างเกาะเสม็ด ให้เป็นต้นแบบเมืองคาร์บอนต่ำที่ยั่งยืน คือ 1. นโยบายพลังงานสะอาดสำหรับทุกพื้นที่ 2. นโยบายขนส่งและการเดินทางคาร์บอนต่ำ 3. นโยบายการจัดการขยะและทรัพยากรหมุนเวียน และ 4. นโยบายเศรษฐกิจท้องถิ่นคาร์บอนต่ำและอนุรักษ์ธรรมชาติ