โคคา-โคล่า เดินหน้าขยายพื้นที่ปักหมุด “COKE Foodmarks” เพิ่มร้านอร่อยซ่าคู่ “โค้ก” ครอบคลุมสตรีทฟู้ดทั่วไทย

กรุงเทพฯ 21 พฤษภาคม 2568 – กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย อันประกอบไปด้วย บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จแคมเปญ “COKE Foodmarks” ขยายการปักหมุดแลนด์มาร์กร้านอร่อยซ่าคู่ “โค้ก” ให้ครอบคลุมย่านสตรีทฟู้ดทั่วไทย โดยปัจจุบันได้ปักหมุดไปแล้วกว่า 4,300 ร้านค้า พร้อมตั้งเป้าปักหมุดร้านอาหารทั่วประเทศภายในปีนี้ โดยเฉพาะร้านค้าในตลาด ถนนคนเดิน และย่านสตรีทฟู้ดชื่อดัง ทั้งในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต หรือเมืองใหญ่อย่างหัวหิน หาดใหญ่ และพัทยา พร้อมเชื่อมต่อผู้บริโภคยุคใหม่ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ ภายใต้แคมเปญ “COKE Foodmarks” เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์ความอร่อยของอาหารสตรีทฟู้ดในย่านดังต่าง ๆ คู่กับความซ่าสดชื่นของ “โค้ก”

“COKE Foodmarks” เป็นแคมเปญของ โคคา-โคล่า ที่จัดขึ้นทั่วโลก เพื่อเชิญชวนให้ผู้บริโภคออกไปเปิดประสบการณ์ความอร่อย เปลี่ยนมื้อธรรมดาให้กลายเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ และเติมเต็มทุกมื้ออาหารด้วยความอร่อยซ่าของ “โค้ก” ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ โคคา-โคล่า ในการเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขของผู้บริโภค โดยแคมเปญ “COKE Foodmarks” ในแต่ละประเทศจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของผู้คนในประเทศนั้น ๆ สำหรับประเทศไทยซึ่งได้เปิดตัวแคมเปญเป็นที่แรกของภูมิภาคอาเซียนและแปซิฟิกใต้ไปในปี 2567 นั้นสะท้อนถึงความผูกพันอันลึกซึ้งที่แบรนด์มีต่อวัฒนธรรมและอาหารไทยตลอด 75 ปีที่ผ่านมา อีกทั้ง “COKE Foodmarks” ยังเน้นการส่งเสริมวัฒนธรรมการบริโภคอาหารสตรีทฟู้ดที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน รวมถึง โคคา-โคล่า ยังได้เข้าไปช่วยโปรโมทร้านผ่านแคมเปญฯ ด้วยการเชื่อมโยงเสน่ห์แบบดั้งเดิมกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ ผสานแพลตฟอร์มดิจิทัล และกิจกรรมต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยเริ่มต้นปักหมุดความอร่อยที่ 4 ย่านอาหารชื่อดังของไทย ได้แก่ ถนนบรรทัดทอง กรุงเทพฯ ถนนนิมมานเหมินท์ เชียงใหม่ ถนน 30 กันยา นครราชสีมา และถนนศาลเจ้า สุราษฎร์ธานี ซึ่งพื้นที่นำร่องเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแคมเปญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอาหารท้องถิ่นให้คึกคักยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการบริโภคและการท่องเที่ยว

ในปีนี้ โคคา-โคล่า ได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเติบโตควบคู่กับชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน ด้วยการร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสำนักงานเขตธนบุรี ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการพลิกโฉมร้านสตรีทฟู้ดใต้สะพานรัชดาภิเษก ฝั่งทางรถไฟตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ซึ่งนับว่าอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้านวัฒนธรรมอาหาร สู่การเป็น “แลนด์มาร์กสตรีทฟู้ดแห่งใหม่” ด้วยการปรับปรุงพื้นที่สำหรับร้านค้าใต้สะพาน ภายใต้การดูแลของสำนักงานเขตธนบุรีให้สะอาด สวยงาม และเป็นระเบียบ ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและการประชาพิจารณ์ เพื่อให้การปรับปรุงสอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่ และคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของย่านตลาดพลู โดยมุ่งส่งเสริมย่านอาหารสตรีทฟู้ดไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ควบคู่กับการเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านมื้ออร่อยคู่ “โค้ก” ผ่านแคมเปญ “COKE Foodmarks”

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “กรุงเทพมหานครสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่มุ่งเน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน ย่านตลาดพลูไม่เพียงโดดเด่นด้วยวัฒนธรรมอาหารสตรีทฟู้ดที่หลากหลาย แต่ยังเป็นชุมชนเก่าแก่ที่สะท้อนประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของผู้คนฝั่งธนฯ ได้อย่างชัดเจน กรุงเทพมหานครมีความยินดีอย่างยิ่งที่โคคา-โคล่า ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการร่วมพัฒนาย่านตลาดพลูให้เป็นย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่สะท้อนอัตลักษณ์ชุมชนผ่านแคมเปญ “COKE Foodmarks” โดยทางสำนักงานเขตธนบุรีและกรุงเทพมหานครได้อำนวยความสะดวกในการประสานงานกับผู้ค้าในพื้นที่ จัดสรรพื้นที่ค้าขายอาหารสตรีทฟู้ดให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ยกระดับการดูแลสุขอนามัยที่เหมาะสม ตกแต่งและปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ค้าและชาวบ้านในพื้นที่ว่าตลาดพลูจะได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับการรักษาวิถีชีวิตของชุมชน เพื่อยกระดับสู่อีกหนึ่งหมุดหมายปลายทางของบรรดานักชิมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน และการพัฒนาเมืองอย่างมีส่วนร่วม ซึ่งเราหวังว่าจะเป็นต้นแบบในการยกระดับชุมชนให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป”

ด้าน ฮาน ทเว เพียว ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคล่า ประจำประเทศไทยและลาว กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นให้ “โค้ก” ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความหมายของผู้บริโภค และเติมเต็มความอร่อยซ่าให้ทุกมื้ออาหารพิเศษยิ่งขึ้น ในฐานะที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 75 ปี โคคา-โคล่า ประเทศไทย รู้สึกผูกพันกับคนไทยรวมไปถึงวัฒนธรรมการกินของคนไทยและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ในปีนี้ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขตธนบุรีในการพัฒนาพื้นที่ร้านค้าใต้สะพานรัชดาภิเษก ฝั่งทางรถไฟตลาดพลู เพื่อยกระดับหนึ่งในย่านประวัติศาสตร์ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ให้กลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของวัฒนธรรมอาหาร พร้อมทั้งขอขอบคุณชุมชนและพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ร่วมกันทำให้ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดขึ้นจริง ซึ่งเรายินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนไปกับทุกภาคส่วน ควบคู่กับการรักษาวิถีชีวิตชุมชนริมทางรถไฟ และคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 200 ปี พร้อมช่วยผลักดันให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ”

A blue sign with white text

AI-generated content may be incorrect.

พัฒนาย่านสตรีทฟู้ดอันมีเอกลักษณ์ สู่แลนด์มาร์กใหม่ของคนรักอาหาร

โคคา-โคล่าได้ออกแบบป้ายแลนด์มาร์ก “ตลาดพลู” บนสะพานรัชดาภิเษกขึ้นใหม่ บนแนวคิดที่ผสาน 3 อัตลักษณ์สำคัญของพื้นที่ ทั้งในมิติของคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่มีความเป็นมากว่า 200 ปี การเป็นชุมชนริมทางรถไฟ และวัฒนธรรมไทย-จีนที่เป็นเอกลักษณ์ และโดดเด่นด้วยอาหารสตรีทฟู้ดที่หลากหลายมาอย่างยาวนาน โดยโคคา-โคล่า ทำงานร่วมกับสำนักงานเขตธนบุรีในการจัดพื้นที่ร้านค้าใต้สะพานรัชดาภิเษก ฝั่งทางรถไฟตลาดพลูตามฟังก์ชั่นการใช้งาน ทั้งการจัดระเบียบพื้นที่สำหรับร้านค้า และพื้นที่นั่งรับประทานอาหารให้เหมาะสม ปรับปรุงจุดล้างอุปกรณ์ให้ทันสมัย พร้อมติดตั้งระบบดักไขมัน และจัดระบบการแยกขยะอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีจุดทิ้งขยะที่มีการแยกประเภทขยะชัดเจน รวมถึงปรับปรุงระบบแสงสว่างทั่วพื้นที่ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและทัศนวิสัยในเวลากลางคืน

เสริมพลังให้ผู้ค้าท้องถิ่นก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัล พร้อมจับมืออินฟลูเอนเซอร์เสิร์ฟคอนเทนต์ “COKE Foodmarks”

นอกจากการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน แคมเปญนี้ยังมุ่งส่งเสริมแหล่งสตรีทฟู้ดในย่านตลาดพลูให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้น ผ่านการสนับสนุนสื่อประชาสัมพันธ์โดยเน้นช่องทางออนไลน์ รวมทั้งให้ความรู้และความช่วยเหลือแก่ผู้ค้าในพื้นที่ด้านการขายอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าขายและมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยร่วมมือกับแอปพลิเคชันเดลิเวอรี Grab เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่

ไม่เพียงเท่านี้ โคคา-โคล่า ยังต่อยอดความพิเศษของแคมเปญด้วยการผนึกกำลังกับอินฟลูเอนเซอร์สายอาหารและท่องเที่ยว สร้างสรรค์คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย เชิญชวนผู้บริโภคออกไปลิ้มรสร้านอาหารชื่อดังที่เข้าร่วมแคมเปญในหลากหลายย่านสตรีทฟู้ดทั่วไทย และยังมี “ศึกวันรวมพลคนนักชิม COKE Foodmarks’ Day” ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์กว่าร้อยชีวิต เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและบอกต่อเทคนิคการสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ติดตาม และยังมีชาเลนจ์การรีวิวร้านอาหารที่เข้าร่วมแคมเปญจากทั่วประเทศควบคู่กับโปรโมชั่นพิเศษมากมายที่เตรียมมามอบให้กับผู้บริโภคในเร็ว ๆ นี้