สหกรณ์การเกษตรโสกแมว จก. อีกความสำเร็จด้านอาชีพในโครงการคทช.

“ต้องปรับแนวคิดของเกษตรกร ให้รวมกลุ่มกันเพื่อจะได้เข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ และไม่ต้องรอรับความช่วยเหลือจากรัฐเพียงอย่างเดียว ปีนี้ดีหน่อย ข้าว ข้าวโพด ปาล์มน้ำมันราคาดี ไม่ต้องช่วยชดเชยทำให้รัฐบาลลดรายจ่ายตรงนี้ แต่ถ้าเราสร้างความมั่นคงเรื่องอาชีพให้กับชาวบ้านโดยที่เขาทำตามความต้องการของตลาด ไม่ผลิตอย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินไป ตรงนี้ก็จะช่วยพี่น้องเกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้”
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวภายหลังนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความหน้าของการส่งเสริมอาชีพและสนับสนุนด้านการตลาดให้กับเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด ในต.อุ่มเหม้า อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) ที่ต้องการให้ประชาชนผู้ยากไร้ มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มผลผลิต ก่อให้เกิดรายได้แก่ประชาชน นำมาซึ่งการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม


โดยมีเกษตรกรสมาชิกได้รับจัดสรรที่ดินจำนวนทั้ง 198 ราย จำนวน 210 แปลง มีเนื้อที่รวม 1,408 ไร่ 3 งาน 44 ตารางวา ซึ่งคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดนครพนม ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 ในการจัดที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณป่าดงหมูให้กับเกษตรกรผู้ยากไร้ พร้อมจัดทำสมุดประจำตัวที่ดินทำกิน
จากนั้นวันที่ 13 สิงหาคม 2558 ได้มีการจดทะเบียนจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัดขึ้น โดยการสนับสนุนของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนมเพื่อดูแลในเรื่องการส่งเสริมอาชีพและการตลาด ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด มีสมาชิกจำนวน 136 ราย ดำเนินธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย และธุรกิจรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร


โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์ให้กับสหกรณ์ เพื่อใช้ในการจัดอบรมและจัดกิจกรรมประชุมกลุ่มสมาชิก พร้อมทั้งจัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 3.1 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์ไปปล่อยกู้แก่สมาชิกได้นำไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพอีกด้วย
นายชื่น คำมุงคุณ แกนนำเกษตรกรที่ร่วมจัดตั้งสหกรณ์ฯ มาตั้งแต่เริ่มต้น ปัจจุบันรั้งตำแหน่งประธานกรรมการสหกรณ์กล่าวขอบคุณกรมส่งเสริมสหกรณ์และสหกรณ์จังหวัดนครพนมที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือสหกรณ์ฯมาตลอดทั้งสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ การฝึกอบรมอาชีพ ตลอดจนการพาสมาชิกไปศึกษาดูงานในที่ต่าง ๆ แล้วนำความรู้มาปรับใช้ในพื้นที่ของตัวเอง ทำให้วันนี้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


“เคยกู้เงินสหกรณ์มา 2 หมื่นเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับพื้นที่ทำแปลงเกษตรผสมผสาน ปัจจุบันได้ส่งชำระหนี้คืนไปหมดแล้ว”ประธานกรรมการสหกรณ์ย้อนอดีตให้ฟัง ปัจจุบันเขามีพื้นที่ทำกินทั้งหมด18 ไร่เศษ อยู่ในพื้นที่คทช.จำนวน 4 ไร่ ส่วนอีก 14 ไร่อยู่ในพื้นที่สปก. แบ่งเป็นทำนา 16 ไร่ เกษตรผสมผสาน 2 ไร่ มีวัว 5 ตัว กระบือ(ตัวเมีย) 1 ตัวเพิ่งซื้อมาไม่นาน มีรายได้เฉลี่ย 6,000-8,000 บาทต่อเดือนจากการจำหน่ายผลผลิตพืชผักสมุนไพร โดยมีพ่อค้ามารับซื้อถึงแปลง


ส่วนที่ดินทำกินที่รัฐจัดสรรให้มาในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) นายชื่นยืนยันว่าจะไม่จำหน่ายต่อให้กับคนอื่นเช่นเดียวกับสมาชิกสหกรณ์รายอื่น ๆ โดยเขาให้เหตุผลว่าเงินได้มาไม่กี่วันก็หมด แต่ที่ดินจะอยู่กับเราตลอดไป
“แต่ก่อนพวกเราอยู่ด้วยความหวาดระแวง จะโค่นต้นไม้เพื่อนำมาทำบ้านสักต้นก็ไม่ได้ เดี๋ยวป่าไม้เข้ามา เดี๋ยวก็ตำรวจเข้ามาจับกุม ชาวบ้านเคยโดนมาแล้วหลายราย แต่วันนี้ไม่มีแล้ว ชาวบ้านอยู่กันยอ่างมีความสุข มีหน่วยงานรัฐเข้ามาดูแลช่วยเหลือตลอด”ประธานกรรมการสหกรณ์คนเดิมเผยความรู้สึก
ขณะที่ นายวิภพ คำมุงคุณ เกษตรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด อาศัยอยู่ในพื้นที่คทช.ธาตุพนมเล่าว่าตนมีที่ดินทำกิน 15 ไร่ ยึดอาชีพหลักทำสวนยางพารา และมีอาชีพเสริมเลี้ยงโค-กระบือ เลี้ยงไก่พื้นเมือง และทำนาปลูกข้าวเพื่อเก็บผลผลิตไว้บริโภค โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนมได้ประสานเจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัดและปศุสัตว์จังหวัดเข้ามาให้คำแนะนำเรื่องการประกอบอาชีพ โดยกู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ผ่านสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด เมื่อปี 2560 จำนวน 40,000 บาท เพื่อเป็นทุนและจัดหาปัจจัยการผลิต ในการประกอบอาชีพ ปัจจุบันมีรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตปีละประมาณ 340,000 บาท
ด้าน นางจันทร์ชนก ระเวงวรรณ เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัดอีกรายอาศัยอยู่ในพื้นที่คทช.ธาตุพนม ยึดอาชีพทำเกษตรผสมผสาน โดยได้รับจัดสรรที่ดินทำกินจำนวน 14 ไร่ แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งทำนา และขุดบ่อเลี้ยงปลานิล 5,000 ตัว จำนวน 2 บ่อ เมื่อสิ้นฤดูเก็บเกี่ยวก็ได้ปรับเปลี่ยนที่นามาปลูกดาวกระจายเพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ให้กับสมาชิก และยังเจียดพื้นที่ส่วนหนึ่งได้ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงกระบือและเลี้ยงไก่พื้นเมือง โดยได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 170,000 บาท


สหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด นับเป็นอีกตัวอย่างความสำเร็จด้านอาชีพ ภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.)ที่ต้องการให้ประชาชนผู้ยากไร้ มีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ทำให้มีการสร้างงาน สร้างอาชีพก่อให้เกิดรายได้ นำมาซึ่งการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ทั้งยังลดการบุกรุก ช่วยปกป้องผืนป่า รักษาพื้นที่ป่าให้อยู่ต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน