“อธิบดีกรมปศุสัตว์ บุกแดนใต้สุดของสยาม” เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ข้าราชการกรมปศุสัตว์ในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 9

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลา 9.30 น.นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจติดตามงานด้านปศุสัตว์ในพื้นที่เขต 9 โดยมีนายอรรถพล แสนพันทา ปศุสัตว์จังหวัดยะลา เลขานุการกรม ผอ.กกจ. ผู้แทนกองแผนงาน และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมติดตามงานในครั้งนี้
ด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่าการลงพื้นที่ตรวจติดตามงานด้านปศุสัตว์ในครั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกรมปศุสัตว์ประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2566 เพื่อให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ดำเนินงานด้านปศุสัตว์ให้เป็นไปตามแผนงานและนโยบายของกรมปศุสัตว์ที่ตั้งไว้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดโดยยึดประโยชน์ของเกษตรกรในพื้นที่เป็นสำคัญเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเกิดการพัฒนางานในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน
ด้านปศุสัตว์เขต9มีพื้นที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดที่รับผิดชอบ 5 จังหวัด
(จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล) พื้นที่ส่วนใหญ่จะเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ เช่น วัว โค แพะ แกะ ไก่ เป็นจำนวนสัตว์มาก มีภารกิจที่ต้องให้บริการงาน ด้านการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์ ในการป้องกัน และควบคุมโรค ด้านมาตรฐานการผลิตปศุสัตว์เพื่อความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภคและสร้างมาตรฐานการส่งออกให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ด้านการวิจัยพัฒนา และถ่ายเทคโนโลยีด้านการปศุสัตว์แก่เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เกษตรกร โดยส่งเสริมรายได้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร การสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรเกษตรกรสามารถนำความรู้ไปพัฒนาอาชีพอย่างมั่นคง
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมปศุสัตว์ ต้องขอขอบคุณข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ได้ทำงานร่วมกัน ทุกคนต่างทุ่มเทแรงกายและแรงใจทำงานเพื่อกรมปศุสัตว์ ทุกความสำเร็จของกรมปศุสัตว์ไม่เพียงแต่มาจากความสามารถของอธิบดีกรมปศุสัตว์เท่านั้น แต่ล้วนมาจากความสามารถของเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ทุกคน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดโดยเน้นย้ำการปฏิบัติงาน เน้นเชิงรุก ยึดสุจริตและโปร่งใสเป็นธรรม ตามหลักธรรมาภิบาล ด้านงบประมาณ ให้ใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด และด้านบุคลากร ให้พัฒนาองค์ความรู้เพิ่มศักยภาพของตนเองเพื่อใช้ประโยชน์ทั้งต่อองค์กรและประเทศชาติต่อไป และที่สำคัญที่สุดขอให้ทุกคนรู้รักสามัคคี พร้อมอธิบดีกรมปศุสัตว์ ร่วมรับฟังปัญหา/อุปสรรค ของการดำเนินงานในพื้นที่ เพื่อนำปัญหาดังกล่าวไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงชี้แนะหลักการในการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ ให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรและสำเร็จตามเป้าหมายการดำเนินงานต่อไป